1. login เข้าสู่ instance ผ่านทาง SSH ด้วย user root (หรือใช้งานผ่าน sudo)
2. พิมพ์คำสั่ง
# lsblk
เพื่อตรวจสอบว่า volume ได้ถูก attach เข้ามาแล้ว
จากรูปจะพบว่า volume ที่ attach เข้ามาใหม่(vdb) ขนาดได้ถูกขยายเป็นขนาดใหม่แล้ว แต่ partition ที่สามารถใช้งานได้(vdb1) ยังเป็นขนาดเดิม
3. พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้เพื่อตรวจสอบขนาดของ volume ที่สามารถใช้ได้ทั้งหมด
# parted volume_name
(parted) print
Fix/Ignore? fix
จะเห็นขนาดทั้งหมดของ volume ดังภาพ
4. พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้เพื่อขยายขนาด partition ให้มีขนาดเท่ากับ volume ที่มีอยู่ทั้งหมด
(parted) resizeparted
Partition number? 1
End? new_volume_size (จากข้อ 3)
ดังตัวอย่าง
กด Ctrl + c เพื่อออกจาก parted
5. พิมพ์คำสั่ง
# lsblk
เพื่อตรวจสอบขนาดของ partition ที่ใช้งานได้ จะพบว่า ขนาดของ /dev/vdb1 ได้ขยายขนาดเท่ากับขนาดใหม่ของ volume เรียบร้อยแล้ว
6. พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้ เพื่อขยาย file system
# e2fsck -f volume_partition_name
# resize2fs volume_partition_name
ดังตัวอย่าง
7. ทำการ mount volume เพื่อใช้งาน โดยพิมพ์คำสั่ง
# mount volume_partition_name mount_point
ดังตัวอย่าง
8. ทำการตั้งค่าให้ instance mount volume นี้ทุกครั้งที่มีการ reboot instance โดยการเพิ่มข้อความใน file /etc/fstab
- ทำการ backup file /etc/fstab เพื่อป้องกันความผิดพลาด โดยใช้คำสั่ง
# cp /etc/fstab /etc/fstab_backup
- เปิด file /etc/fstab และเพิ่มข้อความตาม format ดังนี้
UUID mount_point file_system fs_mntops fs_freq fs_passno
- สามารถหา UUID ของ volume ได้โดยใช้คำสั่งดังนี้
# file -s volume_name
หลังจากที่ทราบ UUID แล้ว สามารถเพิ่มข้อความได้ดังตัวอย่าง
UUID=fd25656a-eddb-41f4-9f36-b9f4511f17ae /data ext4 defaults,nofail 0 2
- หลังจากเพิ่มข้อความใน file /etc/fstab เรียบร้อยแล้ว run คำสั่งต่อไปนี้ เพื่อ mount file system ทั้งหมดใน file /etc/fstab
# mount -a
9. พิมพ์คำสั่ง
# df -h
เพื่อตรวจสอบว่า volume ได้ถูก mount เรียบร้อยแล้ว ดังภาพ